top of page
Search

รู้จัก 7 สไตล์การตกแต่งบ้านยอดนิยมก่อนเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์

หลายๆคนคงเคยพบกับปัญหาการซื้อเฟอร์นิเจอร์ที่ไม่เข้ากับบ้านเราสักเท่าไหร่ ทั้งๆที่เฟอร์นิเจอร์ตัวนั้นๆมีทั้งการดีไซน์ที่สวยงามและราคาที่สูงลิ่ว

ลองจินตนาการดู หากเราเลือกซื้อเก้าอี้สีขาวนวล ตัวขาแกะสลักด้วยช่างฝีมืออย่างงดงาม มองด้วยรูปลักษณ์ คุณค่า คงเหมาะสมกับเงินที่จ่ายไป ทว่าพอจับไปวางกับบ้านสีเทาสุดโมเดิร์น พร้อมด้วยเทคโนโลยีแล้ว เก้าอี้ตัวนั้นกลับอาจถูกลดคุณค่าลงให้ไม่สมราคาอีกเลยก็เป็นได้ เพื่อแก้ไขปัญหานั้น One-D Studio จึงขอหยิบ 7 สไตล์การตกแต่งบ้านยอดนิยมของคนไทย และแนวคิดการออกแบบการตกแต่งบ้านสไตล์นั้นๆ เพื่อตัดสินใจก่อนเลือกหาเฟอร์นิเจอร์ให้เหมาะสมมามาให้อ่านกันก่อนที่จะเจาะลึกในการเลือกเฟอร์นิเจอร์ให้เหมาะสมในบทความถัดไป


1 Modern

2 Loft

7 Luxury

Custom furniture in thailand by One-D Studio Bangkok
Custom furniture by One-D Studio Bangkok


1.Modern


ปัจจุบันคงปฏิเสธไม่ได้ว่า การตกแต่งบ้านสไตล์โมเดิร์น เป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลายทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ด้วยความหมายของคำว่า “โมเดิร์น (Modern)” เองที่บ่งบอกถึงความทันสมัย จึงทำให้บ้านที่ตกแต่งด้วยสไตล์โมเดิร์นนี้จะคงความสดใหม่ไม่น่าเบื่อและตรงใจคนรุ่นใหม่

หากพูดถึงสไตล์โมเดิร์น จริงๆแล้วก็เป็นคำที่มีความหมายอย่างกว้างๆ ซึ่งโดยรวมแล้วก็คือการตกแต่งบ้านที่ดูสะอาดตา ใช้โทนสีที่เรียบง่ายเช่น สี ขาว ดำหรือ เทา เพื่อจัดวางเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งได้ไม่ยาก บางครั้งวัสดุเช่นโลหะ แก้ว หรือเหล็กจะถูกหยิบมาเป็นส่วนหนึ่งในองค์ประกอบเพื่อเพิ่มมิติให้ทันสมัยขึ้น

และในเรื่องของการเลือกเฟอร์นิเจอร์หรือของตกแต่งบ้านสไตล์โมเดิร์นนี้ จะถูกเลือกจากดีไซน์ที่เหมาะสมและสามารถเข้ากับทุกยุคทุกสมัย แต่สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ ควรจะตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี



2. Loft


การตกแต่งบ้านสไตล์ลอฟท์ เป็นหนึ่งในรูปแบบที่ค่อนข้างเป็นที่รู้จักกันมากพอสมควรในช่วงปีหลังๆ สไตล์ลอฟท์เกิดจากช่วงยุคหลังสงครามโลกครั้งที่2 ภาวะสงครามส่งผลต่อเศรษฐกิจอย่างมาก และมันก็มากพอที่จะทำให้บรรดาโรงงาน หรือโกดังต้องปิดตัวลงไป แทนที่จะปล่อยให้พื้นที่นี้รกร้างหลากหลายครัวเรือนกลับหยิบประโยชน์จากพื้นที่ที่ไม่มีคนใช้สอยนี้มาใช้เป็นที่อยู่อาศัย

และในอีกความหมายที่อยากหยิบยกมาให้เห็นภาพง่ายๆของ “ลอฟท์ (Loft)” นั้นก็คือ “ห้องใต้หลังคา” ซึ่งหากนึกแล้ว ก็คงจะเป็นห้องที่มักจะไม่มีคนอยู่เสียเท่าไหร่ การตกแต่งภายในห้องนั้นจึงดูเหมือนจะไม่เป็นมิตรทางสายตานัก แต่ด้วยอิทธิพลของศิลปะการออกแบบ “ห้องใต้หลังคา” นี้จึงถูกหยิบความไม่สมบูรณ์มาประยุกต์ให้เป็นสไตล์ที่ชัดเจนยิ่งขึ้น และนำมาผนวกกับแนวความคิดของความสวยงามที่เกิดขึ้นจากจุดเชื่อมต่อของโครงสร้าง โครงสร้างภายในที่เปลือยเปล่าจึงถูกจับมาให้ความสำคัญและจัดองค์ประกอบให้สวยงามเพื่อแสดงสัจจะวัสดุอย่างไม่ต้องปกปิด


3.Minimal


แนวคิด “Less is more” หรือ “น้อยแต่มาก” คงเป็นหนึ่งในคำคุ้นหูของคนที่ตกแต่งบ้านสไตล์มินิมอล ซึ่งก็เป็นแนวคิดหลักที่เกี่ยวข้องกับการแยกสิ่งที่ไม่จำเป็นออกไป คงเหลืออยู่แค่รูปแบบที่พื้นฐานที่สุด แต่โดดเด่นที่สุดด้วยสัดส่วนที่ลงตัวสวยงาม

บ้านสไตล์มินิมอลโดยปกติแล้วจะมีแปลนที่อยู่อาศัยที่มีพื้นที่โล่ง มีแสงมาก การตกแต่งบ้านสไตล์มินิมอล นั้นมีส่วนคล้ายกับการตกแต่งบ้านแบบโมเดิร์นอย่างหนึ่งก็คือ เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งที่นำมาจัดวางจะตอบโจทย์กับการใช้สอยเพื่อสร้าง Space โดยจุดเด่นของสไตล์นี้จะเน้นที่รูปร่าง สี และพื้นผิวขององค์ประกอบที่จำเป็นเพียงไม่กี่ชิ้นที่สำคัญและรูปทรงที่เรียบง่ายให้ความรู้สึกนิ่งสงบ สะอาดตา


4.Scandinivian, Nordic


การตกแต่งบ้านสไตล์สแกนดิเนเวียน (Scandinavian) หรือนอร์ดิก (Nordic) เป็นการตกแต่งภายในที่ได้รับอิทธิพลมาจากประเทศแถบยุโรปเหนือ เช่น นอร์เวย์ สวีเดน ฟินแลนด์ เดนมาร์ก และไอซ์แลนด์ ซึ่งถือเป็นการออกแบบทางด้านสุนทรียศาสตร์ตั้งแต่ยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ในช่วงเวลาเดียวกับที่การตกแต่งสไตล์โมเดิร์นเข้าเข้ามามีอิทธิพลในอเมริกาและยุโรปมากขึ้น

สิ่งที่ทำให้สไตล์สแกนดิเนเวียนน่าสนใจก็คือความเรียบง่ายและการเน้นงานช่างฝีมือท้องถิ่น ซึ่งเราแทบจะไม่พบสิ่งที่บ่งบอกฟุ่มเฟือยใดๆอยู่เลยด้วยซ้ำ เฟอร์นิเจอร์ที่ใช้จะมีฟังก์ชันการใช้งานได้สะดวกแต่ยังคงไม่ละทิ้งความงดงามและเข้าถึงได้ง่ายอาจเป็นงานไม้หรือสิ่งทอที่มีพื้นผิวและเฉดสีที่บ่งบอกถึงความนุ่มนวลเพื่อให้ความรู้สึกอบอุ่นไปพร้อมกัน ให้เข้ากับหลักแนวคิดการตกแต่งให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมโดยรอบของบ้าน


5.Vintage


ยุคสมัยผ่านไป การตกแต่งบ้านสไตล์วินเทจ ไม่ใช่แค่ความเก่า ทว่าถูกเรียกว่าการตกแต่งบ้านที่หยิบความทรงจำในอดีตที่สวยงามมาทำให้เราหวนนึกถึง ในยุคปัจจุบันเฟอร์นิเจอร์หรือของตกแต่งบ้านเก่าแก่ เช่นตู้เก็บของ โต๊ะ เก้าอี้ ที่มีการทำจากไม้ตั้งแต่ยุคสมัย 1940-1980 มักถูกหยิบมาวางให้เข้ากับเฟอร์นิเจอร์สมัยใหม่ได้อย่างเข้ากัน ปัจจุบันคำนิยามของสไตล์วินเทจนี้จึงเปลี่ยนเป็นการผสมของเก่าที่พร้อมด้วยกลิ่นไอ Notalgic โดยไม่จำเป็นต้องมีแต่ของโบราณเสมอไป


6.Classic

การตกแต่งบ้านสไตล์คลาสสิค เรียกได้ว่าเป็นสไตล์ที่ “ไร้กาลเวลา(Timeless)” การตกแต่งภายในแบบคลาสสิกนี้เป็นไปตามรูปแบบที่เรียบแต่หรู ประกอบด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่มาพร้อมด้วยรายละเอียดอันวิจิตรจากช่างฝีมือ เช่น การแกะสลัก ตลอดจนชิ้นส่วนที่มีรายละเอียดงดงาม อ่อนช้อย ผ้าที่มีพื้นผิวและลวดลายที่ละเอียดอ่อน ซึ่งบางครั้งอาจเป็นสิ่งของตกแต่งที่ทำจากสัตว์


7.Luxury


การตกแต่งบ้านสไตล์ Luxury จริงๆแล้วไม่ใช่แค่ความหรูหราภายนอกที่ฉาบฉวย แต่ต้องได้ใช้ประโยชน์จากความสะดวกสบายนั้นด้วย ถือเป็นการตกแต่งที่สามารถเชิญชวนแขกที่มาบ้านได้รู้ถึงเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเจ้าของบ้าน อาจใช้งานศิลปะชิ้นพิเศษ รวมถึงของสะสมที่มีจำนวนจำกัดซึ่งแสดงออกถึงความหรูหราและรสนิยม

การออกแบบสไตล์ Luxury นี้จะถูกสร้างและออกแบบพื้นที่อย่างพิถีพิถัน ไม่จำกัดว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์แบบเก่าหรือใหม่ เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นจะได้รับความใส่ใจทั้งในเรื่องรายละเอียด ดีไซน์ ให้คุ้มค่ากับการทุ่มทุนโดยแท้จริง














ดูเฟอร์นิเจอร์สำหรับการตกแต่งบ้านจากทาง One-D Studio Bangkok ได้ที่นี่

.

ปรึกษาเรื่องเฟอร์นิเจอร์ในแบบที่คุณต้องการกับ One-D Studio Bangkok ได้ในช่องทาง

Facebook : One-D Studio Bangkok หรือ m.me/onedstudiobkk

Line Official : @onedstudio หรือ https://lin.ee/tpaLIbYv

Instagram : onedstudiobangkok หรือ https://www.instagram.com/onedstudiobangkok/



bottom of page